ประโยชน์ชาเจียวกู่หลาน

ชาสมุนไพรเบญจขันต์ (เจียวกู่หลาน) เกรด A 


คัดเลือกเฉพาะยอดอ่อน ไม่มีเถา ไม่มีใบแก่ รสชาตินุ่มนวล ไม่ขมไม่ฝาด ลื่นคอ คัดพิเศษ มีความประณีต

ในการทำ ใบชาชนิดนี้ที่ต่างประเทศเอาไปสกัดทำยา ปริมาณการใส่ใบชาแห้งใช้แค่

เพียงครึ่งช้อนโต๊ะเท่านั้น


เป็นพืชต้นกำเนิดที่ประเทศจีนชอบอากาศหนาวเย็นและเป็นพืชออแกนิกตั้งแต่

เกิด (ไม่สามารถใช้สารเคมีในการดูแลรักษา) อากาศดี – น้ำดี ลักษณะเป็นไม้เลื้อย

เถาวัลย์คล้ายผักตำลึง ขนาดลำต้นสีเขียวทรงกลม แตกกิ่งก้านทอดเลื้อยตามหน้าดิน 

สามารถเลื้อยไปได้ไกล 2 – 3 เมตร โดยจะมีรากหรือมือเกาะเป็นเส้นแตกออก

ตามโคนก้านใบทุกก้าน และจะฝังดินเป็นรากยึด แตกเป็นลำต้นแผ่กระจายไปเรื่อย ๆ 

ใบประกอบ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 5 ใบ ขนาดไม่เท่ากัน เป็นรูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ใบเป็นสีเขียวเข้มหนาแน่นเป็นแพน่าชมยิ่ง ใบแก่บนใบจะมี

เมล็ดเล็ก ๆ สีดำเกาะอยู่บนใบจำนวนมาก มองตาเปล่าไม่เห็นเมื่ออบแห้งแล้ว นำมา

ชงน้ำดื่มและพอน้ำเย็นลง ก้นแก้วจะพบเศษเล็ก ๆ คล้ายทรายนอนอยู่ก้นแก้ว สารเม็ดเล็ก ๆ คล้ายเมล็ดแมงลักเหล่านี้จะสามารถชะล้างเชลล์ในเนื้อเยื่อภายใน

หลอดอาหาร กระเพาะอาหารได้ดี ชะล้างเนื้อเยื่อ เมื่อเซลล์เก่าถูกชะล้าง เชลล์ใหม่

ก็จะเปิดบอลลูนขึ้นมาแทนที่ให้มีประสิทธิภาพ เป็นภูมิต้านทานโรค ส่วนดอกเป็น

สีแดง ขนาดเล็กมาก ออกเป็นเดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อกระจุก 2 – 3 ดอก ที่ปลายยอด

ลักษณะดอกมีกลีบดอก 4 ดอก ดอกบานพร้อม ๆ กันทุกยอด จะดูสวยงามมาก ดอกจะออกเมื่อต้นเจริญเติบโตเต็มที่

    เจียวกู่หลาน  

    สมเด็จพระเทพ เสด็จประภาสจีนและทรงเล็งเห็นประโยชน์ของเจียวกู่หลาน

เป็นสมุนไพรที่รักษาโรคได้หลายชนิด มีสรรพคุณใกล้เคียงกับใบชา ข้อดีคือไม่มี คาเฟอีน รสชาติก็ดื่มง่ายเหมือนโสม และทรงเล็งเห็นว่าภูมิศาสตร์ประเทศไทยก็

เหมาะที่จะปลูกพืชชนิดนี้ จึงได้ส่งเสริมให้มีการปลูกอย่างแพร่หลาย และขนานนาม

สมุนไพรชนิดนี้ให้ใหม่เพื่อบรรจุเข้าสมุนไพรไทย ชื่อ “เบญจขันต์ หรือ ปัญจขันต์” คนจีนเรียกเซียนเฉ้า (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) ฝรั่งเรียก ”Gynostemma pentaphyllum”


ปลอดสารเคมี  ตั้งแต่แรกเกิด การเพาะชำต้องรดน้ำในห้วยที่ไหลมาจากยอดเขา เพราะน้ำในห้วยมีสารอาหารและแร่ธาตุมากมายเหมาะแก่การปลูกเจียวกู่หลาน ใช้น้ำประปารดไม่ได้เพราะมีสารคลอรีน ต้นไม้จะตาย หรือไม่ผลิตใบ มีแต่ลำต้น

หรือถ้าออกใบก็จะห่างมากเป็นคืบ ไม่ชอบแดดร้อนจัด ต้องปลูกใต้หลังคาสังเคราะห์

แสง ใส่ปุ๋ยเคมีหรือฉีดยาฆ่าแมลงก็ไม่ได้ ต้นอาจตายหรือไม่ออกใบ เหลือแต่ก้าน

ใช้ความละเอียดในการจัดการ ถึงจะได้ผลผลิตนำออกสู่ตลาด จากการวิจัยของศูนย์

วิจัยทั่วโลก ยกระดับใบของเบญจขันต์ เจียวกู่หลานเป็นพืชมหัศจรรย์ สามารถรักษา

โรคได้หลายชนิด ลดระดับความดันของหลอดเลือด รักษาโรคได้หลายชนิดและเป็น

ตัวปรับสมดุลย์ของเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง เบญจขันต์ เจียวกู่หลาน นำมา

สกัดทำยาหลายชนิดและหลายขนาดภายใต้ภาษาอังกฤษ ( GYNOSTEMMA PENTAPHTLLUM ) เบญจขันต์ เจียวกูหลาน ได้บรรจุเข้าเป็นสมุนไพรไทยแล้ว ภายใต้

ชื่อ เบญจขันต์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เซียนเฉ้า วิธีเก็บเบญจขันต์ เมื่อเด็ดเถาวัลย์

มาแล้วจะเอาผ้าขาวห่อเหมือนลูกประคบ ขนาดใหญ่ และนำมานวดเบา ๆ ให้ใบ

เสียดสีกันแต่ไม่ให้ช้ำมาก ให้ได้ทั่วกัน และแกะผ้าขาวออก ผึ่งคลายความร้อนจาก

การนวด แล้วนำมาอบแห้ง บรรจุซองตะกั่วเมลามีนปิดซองสนิทกันความชื้น ไม่ให้

ลมนอกเข้าและไม่ให้ลมในออก กลิ่นจึงหอม ขนาดบรรจุมี 2 ขนาด คือ 100 กรัม

และ 200 กรัม มาตรฐานใบชาที่บรรจุอยู่ในซองตะกั่วเมลามีนเก็บรักษาได้อายุ 2 ปี 

เมื่อเปิดซองใบชาควรพับ 2 – 3 ชั้น และเอากิ๊ปหนีบ หรือหนังสติ๊กรัดรอบบนล่าง 

ที่พับเข้าหากันก้นถุง และอยู่ในที่ไม่มีแดด อย่านำเข้าตู้เย็น ถ้าเข้าตู้เย็น เมื่อนำมา

ชงดื่มเสร็จแล้วก็ต้องอย่าลืมเก็บกลับเข้าตู้เย็น มิฉะนั้นใบชาอาจขึ้นราได้ ถ้าดื่มทุกวัน

ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น

 

 

สรรพคุณเทียบกับโสม 5 ชนิด

     1. ลดความดันโลหิต, ลดคอเลสเตอรอล   

     2. ลดน้ำตาลในเลือด, ละลายไขมันอิสระ   

     3. ชะลอความแก่, ยืดอายุของเซลล์      

     4. รักษาโรคปวดหัวข้างเดียว, โรคหลอดลมเรื้อรัง 

     5. รักษาโรคหลอดเลือดแข็งตัว, โรคหัวใจ                    

     6. ต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

     7. รักษาโรคกระเพาะเป็นแผล

     8. เสริมสร้างเซลล์ในกระดูก 

     9. บำรุงสมอง, ระงับประสาท 

    10. ขับท่อปัสสาวะ, ลดอาการต่อมลูกหมากโต 

    11. สร้างสมดุลฮอร์โมนรอบเดือนสตรี                    

    12. ฟื้นฟูฮอร์โมนต่อมลูกหมากสุภาพบุรุษ


ช่วยขับน้ำ หมายถึง จะขับน้ำในร่างกายของคนที่เป็นคนอ้วน ซึ่งส่วนใหญ่จะอ้วนลม

และอ้วนน้ำที่เกินสมดุล หรือที่สมดุลไม่ปกติ ให้น้ำนั้นออกจากร่างกาย ช่วยขับของ

เสียที่ไต ช่วยไปล้างท่อปัสสาวะ ทำให้ท่อปัสสาวะโล่งและมีแรงดัน ฉะนั้นบางคนที่

ดื่มเจียวกู่หลานจะปัสสาวะบ่อยและจะมีเศษของนิ่วออกมาด้วย

ช่วยขับลม หมายถึง ลมที่ไม่ปรกติ ในกระเพาะอาหารและลำไส้ ลมแน่นหน้าอก

กรดไหลย้อน ลมในไขข้อกระดูก ตามหัวไหล่ แขนและขา เมื่อดื่มเจียวกู่หลานแล้ว จะขยายหลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจ สร้างสมดุลให้กับเม็ดเลือดที่ไปเลี้ยงตามร่างกาย

จะผายลม คลายปวดเมื่อย และขับเหงื่อ

ช่วยขับกาก หมายถึง ขับไขมัน การถ่ายอุจจาระเจ้าของร่างกายจะรู้สึกได้ว่าได้ขับ

ไขมันออกมา อาการขับถ่ายจะลื่นไหลง่าย ไม่ต้องเบ่งมากและบรรเทาอาการเสียดสี

ของริดสีดวงทวารหนักจากอาการท้องผูก อาการขับถ่ายจะมีไขมันมาช่วยให้ลื่นไหล

มาก สำหรับคนอายุมากหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้จะไม่ท้องผูก ไม่มีกรดแน่นเฟ้อ

กรดไหลย้อน จะเรอลมในอกได้ ไม่มีคาเฟอีน นอนหลับง่าย ช่วยย่อยอาหาร ทำลาย

อาหารที่เป็นพลังงาน หลับสนิท ประโยชน์สูงสุดดื่มก่อนนอน 1 แก้วน้ำดื่มจะดีมาก

     เจียวกู่หลาน ไม่ใช่แค่เพียงช่วยในเรื่องการขับถ่ายเท่านั้น ยังช่วยสร้างฮอร์โมน

ให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นหญิง หรือ ชาย คนสูงอายุ การสร้างฮอร์โมน ดีต่อร่างกายคือ เป็นภูมิคุ้มกันโรค ช่วยในการย่อยอาหาร เปิดรับ เอ็นไซน์ ในอาหารได้ดี เซลล์จะ

เปิดบอลลูน เปิดต่อม ดี เอ็น เอ ให้ใหม่ ฟื้นฟูเซลล์ภายในอวัยวะชั้นในให้ร่างกาย  ชะลอความแก่ เพราะเซลล์ทำงานมีประสิทธิภาพ เป็นภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ 

ทั้งหมดนี้ คือ ประโยชน์การดื่มก่อนนอน  1 แก้วน้ำดื่ม  หรือมากกว่าก็จะดีมาก ดื่มคืนนี้ พรุ่งนี้เช้า คำตอบพิสูจน์ได้ด้วยตัวคุณเอง มากกว่าคำบอกเล่า

     การดื่มก่อนนอนมีประโยชน์ตรงที่ มนุษย์เราเมื่อทานอาหารเช้า อาหารเที่ยง

อาหารเย็น ที่ยังย่อยสลายอาหารไม่หมด หรือสารพิษที่อยู่ในกระเพาะอาหารและ

ลำไส้ตกค้าง การดื่มก่อนนอนจะทำหน้าที่ขับล้างสารอาหารเหล่านั้นหมดเลย รุ่งเช้า

จะขับถ่ายทั้งหมด ขับถ่ายของเสีย ทั้งลม ทั้งกาก ทั้งน้ำ


สรุป  เจียวกู่หลาน (เบญจขันต์) เป็นพืชรักษาเกี่ยวกับโรคเลือด


วิธีชงดื่ม หยิบใบชา 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ภาชนะชงชา รินน้ำร้อน 90 - 100 องศา 

แช่ใบชาในน้ำ ประมาน 1 นาที อย่าแช่ชาสมุนไพรไว้นานเพราะจะทำให้สีชาเข้ม

จะเข้าไปทำลายน้ำตาลในเม็ดเลือดแรงเกินไป ถ้าสีชาเข้มให้เอาน้ำร้อนรินใส่จนสีออก

เหลืองอ่อน ดื่มอุ่น ๆ จะดีมาก หรือถ้าดื่มไม่หมดทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเทใส่ขวด แช่ตู้เย็น ดื่มเป็นน้ำเย็นก็สดชื่นดี สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตควรดื่ม

แทนน้ำเป็นประจำทุกวันเพื่อลดอาการความดันโลหิตและโรคเบาหวาน และคนปกติที่

ไม่เป็นโรคดื่มเป็นประจำจะมีสุขภาพที่ดี เป็นภูมิคุ้มกันโรค ข้อสำคัญอย่าชงชาเข้ม

เพราะดื่มทุกวัน


* หมายเหตุ ไม่ควรใช้น้ำประปาชงชาเพราะในน้ำประปามีสาร คลอรีน อยู่มาก เมื่อนำมาต้มชงชาจะทำให้รสชาและกลิ่นชาเสีย

* คำเตือน ผู้ที่ห้ามดื่มชาทุกชนิด คือ หญิงตั้งครรภ,์ มารดาที่ให้นมบุตร, ผู้ที่ฟอกไต และคนผอมแห้ง ความดันต่ำ


วิธีการเก็บใบชา               

1. อย่าเทใบชาออกไปใส่ภาชนะอื่นหากไม่จำเป็น ถ้าจะใส่ภาชนะอื่นต้องเป็นภาชนะ

  สูญญากาศ

2. หลังเปิดซองแล้ว พับซองชาและเอาคลิปหนีบปากถุงไว้

3. บางท่านนิยมเอาชาใส่ตู้เย็นก็ดีอยู่ แต่เมื่อนำออกมาชงดื่มแล้ว ให้นำซองกลับไปใส่

  ตู้เย็นเหมือนเดิม แต่ถ้าเราดื่มทุกวันก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเข้าตู้เย็นก็ได้ เพราะใบชา

  ห่อนึงก็ดื่มได้ประมาณ 1-2 เดือน ก็หมดแล้วดื่มเป็นน้ำเย็นก็สดชื่นดี