• น้ำปู๋ กระปุกใหญ่ (500 กรัม)

น้ำปู๋ กระปุกใหญ่ (500 กรัม)



สั่งซื้อสินค้า ร้านแหนมนันทวันได้ที่
line : @nuntawan
โทร : 081-645-9401
หรือเลือกสินค้าที่ www.namnuntawan.com 

กดที่ลิงค์เพื่อแอดเพื่อเลยค่ะ ^^

น้ำปู๋ อาหารคู่ครัวของคนบ้านเฮา

    น้ำปู๋ เป็นอาหารที่อยู่คู่บ้านคู่ครัวของคนบ้านเฮาเหมือนมีกะปิ ปลาฮ้า เก๋อ น้ำป๋า น้ำผัก และน้ำปู๋ เพราะน้ำปู๋ เป็นวิธีการแปรรูปและการถนอมอาหารที่ทำมาจากปูนา ซึ่งจะสามารถทำได้ในหน้าฤดูกาลทำนาหรือหน้าฝนที่มีปูนาจำนวนมากในสมัยก่อนบ้านเรามีปูนาตัวเล็ก ๆ อยู่ตามทุ่งนาเต็มไปหมด คนเฒ่าคนแก่บอกว่าปูนาเหล่านี้ไม่ได้กัดกินต้นข้าว ชาวบ้านส่วนใหญ่จะจับปูนามาทำกับข้าวกินกันตั้งแต่ การนำมาทำน้ำพริกปู นำมาคั่วกับผักกาดส้ม และนำมาทำน้ำปู๋ ในปัจจุบันปูนาที่จะนำมาทำน้ำปู๋แทบจะหาไม่ได้เนื่องจากมีปูชนิดหนึ่งเข้ามาแพร่พันธุ์เมื่อประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นปูพันธุ์ขนาดใหญ่ตัวสีแดงๆ แข็ง ๆ ตอนเข้ามาใหม่ ๆ ชาวบ้านตื่นเต้นกันมากหาซื้อมากินและนำมาปล่อยในทุ่งนาตนเองจนในที่สุดปูพันธุ์ที่ว่านี้ก็กัดกินปูนาตัวเล็ก ๆ ในปัจจุบันปูนาตัวเล็ก ๆ ก็ยังพอมีอยู่แต่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อนถึงแม้ปูตัวใหญ่จะทำลาย แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังนิยมกินปูตัวใหญ่มากว่าตัวเล็ก จึงทำให้หันไปจับปูตัวใหญ่กันมากกว่าการจับปูนา ส่วนปูนานั้นจะมีมากในฤดูฝน ที่ชาวบ้านจะไปจับตอนแดดร้อน ๆ เพราะปูนาจะหลบความร้อนจากในนามาอยู่ตามคันนาเมื่อเราเดินมาปูนาก็จะตกใจและลงไปอยู่ในนา ชาวบ้านก็จะเก็บปูนาได้ง่าย

 

       การทำน้ำปู๋ เมื่อได้ปู๋นามาแล้วก็นำเอามาขังและแช่น้ำไว้สักหนึ่งคืนเพื่อให้สิ่งสกปรกดินโคลนหลุดออกจากตัวปู๋นา จากนั้นก็จะนำปู๋นามาล้างให้สะอาดหลาย ๆ ครั้ง เตรียมใบตระไคร้ ใบข่า ใบขมิ้น บางแห่งบางพื้นที่ใส่ใบบ่าก๊วยก๋าหรือใบฝรั่ง(ทางอำเภอแม่ออน) หรือใบหมี่(ทางอำเภอลี้) จากนั้นนำมาตำกับปู๋นาในครกมอง หรือครกขนาดใหญ่ บางทีก็ใช้ครกสำหรับต๋ำเฝ่า(ดินปืน) ซึ่งเป็นครกไม้ขนาดใหญ่และมีสากขนาดใหญ่เช่นกันหรือบางครอบครัวก็จะมีครกขนาดใหญ่เพื่อนำมาใช้ในการถนอมอาหารโดยเฉพาะ เช่น บ้านแม่หลวงผัด  ดีจิตรกาศ ที่ใช้สำหรับทำน้ำผักด้วย เนื่องจากครกมองหาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน(ขายให้ร้านของเก่ากันหมด) เมื่อตำได้ละเอียดเข้าที่แล้วก็นำออกมาคั้นเอาน้ำเหมือนการคั้นกะทิ ในระหว่างนี้ก็จะนำกลับไปตำซ้ำอีกเพื่อที่จะบีบน้ำออกจากน้ำปู๋ให้มากที่สุด จากนั้นก็นำน้ำปู๋มาเก็บไว้ประมาณ ๑-๒ คืน เพื่อดองให้เกิดกลิ่น

         

 

 

      การเคี่ยวน้ำปู๋ต้องไปเคี่ยวที่ห่างไกลผู้คนตามห้างโต้งห้างนา การเคี่ยวตอนแรก ๆ ก็ใช้ไฟแรง ๆ หน่อย และค่อย ๆ เอาฟืนออกใช้ไฟอ่อนลง เมื่อเคี่ยวจนน้ำปู๋เกือบแห้งเเล้วก็จะเติมเกลือเล็กน้อย หากต้องการทำเป็นน้ำปู๋ปรุงรสก็จะเติมเครื่องผสมชนิดอื่นๆ เช่น พริกป่น หัวหอมคั่ว กระเทียมคั่ว อาจมีการใส่ผงชูรสเพื่อทำให้น้ำปูที่ได้นั้นมีรสชาดอร่อยยิ่งขึ้น เมื่อน้ำปูแห้งจะจับกันเป็นก้อนสีดำ พักไว้ให้เย็นและสามารถนำไปเก็บไว้ในโหล หรือใส่กระปุกเล็ก ๆหรือออม ไว้แจกจ่ายหรือนำไปจำหน่าย ถ้าใครได้เห็นวิธีการเคี่ยวน้ำปู๋ จะสามารถระลึกได้ถึงกลิ่นอันหอมฉุนในระหว่างการเคี่ยวน้ำปู๋นั้นว่าสุดยอดขนาดที่แม่ก่ำเดือน(คนอยู่ไฟ) ต้องให้ไปอยู่ไกล ๆ หรืออยู่ในที่มิดชิดเพื่อไม่ให้ได้กลิ่นเพราะจะทำให้ผิดเดือนหรือสำแดงเพราะน้ำปู๋เป็นของแสลงจนทำให้เกิดการเมาเศียรเวียนเกล้า คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเข่า ปวดกระดูก ง่วง หนาว หาว นอน และจะไม่สามารถได้กินและได้สัมผัสกลิ่นน้ำปู๋ในตลอดชีวิตนี้เนื่องจากเป็นลมผิดเดือน ไปแล้วเพราะกลิ่นน้ำปู๋

 

      น้ำปู๋ สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง แต่ที่ชอบกันทุกบ้านก็คือ น้ำพริกน้ำปู๋ ที่ทำกันง่าย ๆ โดยมีพริกจี่(พริกหนุ่มปิ้งไฟ) กระเทียม ตะไคร้หั่นซอย โขลกรวมกัน และใส่ผิวมะกรูดเพื่อให้ได้กลิ่นหอมมะกรูดด้วย สูตรเมืองแพร่ เมืองน่านจะไม่ใส่ตระไคร้แต่จะซอยหอมป้อมเป้อ(ผักชีฝรั่ง)โขลกรวมและบีบเอาน้ำมะกรูดใส่แทนผิวมะกรูด ซึ่งน้ำพริกน้ำปู๋ก็จะมีสูตรที่แตกต่างจากกันตามแต่ละถิ่นฐาน แต่ที่แน่นอนที่สุดคือการกินกับหน่อไม้ซึ่งเป็นชู้รักของน้ำพริกน้ำปู๋ จนเป็นสูตรที่ใคร ๆ นำมาเปรียบเทียบว่า “น้องนางบ้านนา กับเทพธิดาดอย” นอกจากนี้ น้ำปู๋ ยังสามารถนำมาใส่กับยำหน่อไม้ แกงหน่อไม้ ต๋ำบ่าโอ(ส้มโอ) ส้าบ่าเขือ ส้าบ่าแต๋ง ใส่น้ำพริกหรืออ้อร้อกับส้ม(ผลไม้รสเปรี้ยว) เช่น มะขาม มะม่วง มะเฟือง บางทีน้ำปู๋นำมาจิ้มกินกับมะขามอ่อน บางคนก็นำมาป่ายกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆลำแต้ ๆ (อร่อย)

*ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า


เขียนรีวิว

โปรด เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก เพื่อทำการรีวิว

น้ำปู๋ กระปุกใหญ่ (500 กรัม)

  • 250.00 บาท


คำค้นหา: ของกิ่นคนเมือง, ของฝาก, ของฝากจากเชียงราย, น้ำปู, น้ำปู๋, น้ำปู๋คัดพิเศษ, น้ำปู๋เกรดเอ, ร้านแหนมนันทวัน, อาหารพื้นเมือง, อาหารเหนือ